วันศุกร์ที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

งานเลี้ยงหรูในห้องน้ำ

งานเลี้ยงหรูในห้องน้ำ


มีแม่คนหนึ่งกับลูกชายวัยสี่ขวบใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน เธอมีอาชีพเป็นคนรับใช้ของครอบครัวหนึ่ง

      มีวันหนึ่ง เจ้านายที่เป็นเจ้าของบ้านต้องการจะจัดงานเลี้ยงแขก และเขาก็หวังว่าสาวใช้คนนี้จะมาช่วยเขาต้อนรับแขกในตอนเย็น แต่เมื่อเธอนึกถึงลูกชายที่ต้องอยู่บ้านเพียงลำพังคนเดียว คงจะกลัวมากตามประสาเด็ก เธอจงขออนุญาตเจ้านายพาลูกชายมาด้วย ในระหว่างทางที่เธอพาลูกชายมานั้น  ก็ได้ซื้อขนมปังและไส้กรอกที่ไม่เคยซื้อมาก่อนเลยให้กับลูกชาย และพูดกับลูกชายว่า

แม่  :  วันนี้แม่จะพาลูกไปงานเลี้ยงน่ะ

      งานเลี้ยงจัดขี้นอย่างหรูหรา สาวใช้ไม่อยากให้ลูกชายรับรู้ถึงความแตกต่างระหว่างความจนกับความรวยเร็วจนเกินไปนัก และเพราะในบ้านนี้ทุกที่ต่างเต็มไปด้วยแขกเหรื่อผู้มีเกียรติ ดังนั้น สาวใช้จึงจำเป็นต้องพาลูกชายไปซ่อนไว้ในห้องน้ำที่เจ้านายใช้เฉพาะคนเดียว  หลังจากนั้น เธอน้ำตาคลอเบ้าแต่ต้องเก็บซ่อนน้ำตาไว้ พร้อมบอกกับลูกชายว่า

แม่  :  หนูก็มีความสุขอยู่ในห้องงานเลี้ยงนี้นะลูก

      เด็กชายคนนี้เติบโตขึ้นมาจากครอบครัวที่มีฐานะยากจน เขาไม่เคยเห็นห้องที่หรูหราขนาดนี้มาก่อน แล้วยิ่งไม่เคยเจอสุขภัณฑ์โถชักโครกมาก่อน และยิ่งไม่เคยรู้จักอ่างล้างหน้าที่ทำด้วยหินอ่อนอันสวยงามนี่มาก่อน แล้วเขายังดมกลิ่นหอมของน้ำยาล้างมือและสบู่อีกด้วย ซึ่งตัวเด็กชายคนนี้ได้คิดเอาเองว่า เขาได้มาถึงภัตตาหารแล้ว มีความสุขมากจนถอนตัวไม่ขึ้นเลยทีเดียว เขานั่งบนพื้น เอาจานว่างบนฝาชักโครก จ้องมองไส้กรอกและขนมปังที่วางอยู่ในจาน และร้องเพลงอย่างมีความสุข

       ณ เวลานี้ งานเลี้ยงของจริงได้ถูกจัดขึ้นแล้ว เจ้านายนึกถึงลูกชายของสาวใช้ได้ จึงถามสาวใช้ สาวใช้ตอบว่า

สาวใช้  :  ไม่ทราบค่ะ อาจจะออกไปวิ่งเล่นอยู่ข้างนอกมั้งค่ะ

      เจ้านายสังเกตเห็นว่าสาวใช้ตอบอย่างหลบสายตา จึงเดาเหตุการณ์ท้้งหมดได้ เขาจึงตามหาลูกของสาวใช้อย่างเงียบ ๆ ภายในบ้าน ในที่สุด ก็ตามเสียงร้องเพลงของเด็กชายคนหนึ่งไปเจอว่าอยู่ในห้องน้ำ เจ้านายตกตะลึงอึ้งกิมกี่ แล้วถามเด็กชายว่า

เจ้านาย  :  เจ้าหนู มาซ่อนอะไรอยู่ในนี้?

      เด็กชายที่ตอนนี้กำลังเคี้ยวไส้กรอกอยู่เต็มปาก จึงตอบอย่างตะกุกตะกักว่า

เด็กชาย  :  ผมมางานเลี้ยงที่นี่ครับ ตอนนี้ผมกำลังกินอาหารเย็นอยู่

      ตัวของเจ้านายเองต้องพยายามสะกดกลั้นอาการตกใจไว้ แล้วถามต่อว่า

เจ้านาย   :  หนูรู้ไหมว่าที่นี่คือสถานที่อะไร?
เด็กชาย  :  ผมต้องรู้อยู่แล้ว ว่าที่นี่เป็นห้องที่เจ้าของงานเลี้ยงจัดไว้ให้ผมโดยเฉพาะ
เจ้านาย   :  แม่ของหนูบอกมาอย่างนี้หรอ?
เด็กชาย  :  ใช่ครับ อันที่จริงไม่ต้องให้แม่บอก ผมก็รู้ครับว่า เจ้าของงานเลี้ยงต้องจัดห้องที่ดีที่สุดไว้ให้สำหรับผมแน่นอนอยู่แล้ว !
 
      แล้วเด็กชายก็ชี้ไปที่ไส้กรอก แล้วพูดว่า

เด็กชาย  :  เพียงแต่ ผมหวังว่าจะมีใครสักคนหนึ่งมากินอาหารเป็นเพื่อนกับผม ของอร่อย ๆ ก็ต้องให้ทุกคนมากินด้วยกันมันถึงจะสนุก

      เจ้านายเข้าใจเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นต่อหน้าของตัวเองแล้ว เขาเดินออกไปที่โต๊ะจัดเลี้ยงอาหารอย่างเงียบ ๆ แล้วพูดกับแขกเหรื่อว่า

เจ้านาย  :  ท่านผู้มีเกียรติครับ ต้องขอโทษเป็นอย่างยิ่ง ที่เกรงว่าวันนี้กระผมไม่อาจอยู่ร่วมโต๊ะกับทุกท่านได้ เพราะกระผมต้องไปเป็นเพื่อนกับแขกพิเศษท่านหนึ่ง

      หลังจากนั้น เจ้านายก็ยกอาหารสองจานจากโต๊ะจัดเลี้ยง ไปยังห้องน้ำ เคาะประตูเบา ๆ เมื่อเด็กชายอนุญาตให้เข้าห้อง เขาจึงเปิดประตู แล้วเอาอาหารทั้งสองจานนั้นวางบนฝาชักโครก แล้วขยับตัวนิดหน่อยพูดกับเด็กชายอย่างสุภาพว่า

เจ้านาย  :  ห้องที่ดีสวยงามออกอย่างนี้ แน่นอนจะให้หนูมีความสุขคนเดียวได้อย่างไรกัน ขอให้ฉันได้ร่วมงานเลี้ยงกับหนูหน่อยก็แล้วกัน

      ห้องน้ำได้กลายเป็นห้องที่ดีที่สุดในบ้านหลังนี้ไปซะแล้ว พวกเขาทั้งคู่กินอาหารกันอย่างเอร็ดอร่อยในห้องน้ำนี้ และร้องเพลงกันหลายต่อหลายเพลง และก็มีแขกเหรื่อผู้มีเกียรติมากมายต่างทยอยกันมาเคาะห้องน้ำ แล้วเข้ามาทักทายเด็กชายกับเจ้านาย ส่งน้ำแอปเปิ้ลรสเลิศและปีกไก่ที่ทอดกรอบสีเหลืองทองให้กับเด็กชาย ต่อมา แขกคนอื่น ๆ ก็เข้ามาแออัดกันอยู่แต่ในห้องน้ำ ร้องเพลงร่วมกับเด็กชาย ทุกคนต่างตั้งอกตั้งใจ ไม่มีใครเสแสร้ง

      หลายปีต่อมา เด็กชายคนนี้เติบโตเป็นผู้ใหญ่ เขามีบริษัทเป็นของตัวเอง มีบ้านที่มีห้องน้ำถึงสองห้องด้วยกัน เขาค่อย ๆ ก้าวขึ้นสู่สังคมชั้นสูง กลายเป็นมหาเศรษฐี แต่ในทุก ๆ ปีเขาก็ยังบริจาคเงินจำนวนมากให้กับคนจนด้วย แต่เขาไม่เคยจัดงานการกุศลเลย และยิ่งไม่อยากให้คนจนรู้จักชื่อของเขาด้วย มีเพื่อนของเขาถามถึงเหตุผลว่าทำไม เขาตอบว่า ฉันจำเหตุการณ์หนึ่งในอดีตเมื่อหลายปีก่อนได้อย่างชัดเจน มีอยู่วันหนึ่ง มีเศรษฐีท่านหนึ่งและเพื่อน ๆ ของท่าน ไม่รังเกียจเลยที่จะปกป้องเกียรติและศักดิ์ศรีของเด็กชายวัยสี่ขวบเอาไว้

ไม่ต้องพูดอะไรมาก อ่านแล้วชอบก็แปลเลย แต่เมื่อมองย้อนกลับไป ถ้าในตอนนั้น เจ้านายและแขกเหรื่อต่างหัวเราะเยาะเขาที่เข้ามากินข้าวในห้องน้ำ เด็กชายคนนี้อาจจะไม่ได้เติบโตมีอนาคตที่สดใสแบบนี้ เพราะฉะนั้นแล้ว แววตาหรือสายตาที่สื่ออกมา กับการกระทำที่แสดงออกมาอาจเปลี่ยนแปลงชีวิตของใครคนหนึ่ง


卫生间里的晚宴

有一个母亲和四岁的儿子一起生活, 她给一家人做女佣。
有一天,主人要请客, 他希望女佣晚上帮他招待客人。想到儿子独自在家一定很害怕, 她征得主人同意后, 女佣就把儿子带到了主人家中路上,女佣对儿子说要带他去参加一个晚宴,并悄悄地买下了一直都没个儿子买的香肠和面包。
          晚宴太豪华了, 女佣不想让儿子过早知道贫与富的差别, 因为房子里到处都是客人,所以女佣只好把儿子带到了主人专用的卫生间。然后,她含着泪水,并告诉他,他将在这里享用晚宴。男孩在贫困中长大, 他从没见过这么豪华的房间, 更没有见过抽水马桶,不认识漂亮的大理石洗漱台。他闻着洗涤液和香皂的香气,以为到了餐厅, 幸福得不能自拔。他坐在地上,将盘子放在马桶盖上,盯着盘子里的香肠和面包,为自己唱起快乐的歌。
真正晚宴开始的时候,主人想起女佣的儿子, 他问女佣,女佣说她也不知道,也许是跑出去玩了吧。主人看女佣躲闪的目光就猜到了一切, 他在房子里静静地寻找,终于,顺着歌声找到了卫生间里的男孩。主人楞住了,他问男孩:孩子,你躲在这里干什么?男孩嘴里嚼着香肠,含糊地说:我是来这里参加晚宴的,现在我正在吃晚餐。 主人抑制着内心的惊讶,问:你知道这是什么地方吗?男孩说:我当然知道,这是晚宴的主人单独为我准备的房间。主人问:是你妈妈这样告诉你的吗?男孩高兴地说:是呀,其实不用妈妈说,我也知道,晚宴的主人一定会为我准备最好的房间!男孩又指了指盘子里的香肠,噘起小嘴,说:只是,我希望能有个人陪我吃这些东西,好东西要大家一起吃才有意思。
主人已经明白了眼前的一切。他默默走回餐桌前,对所有的客人说:对不起,恐怕今天我不能陪你们共进晚餐了,我得去陪一位特殊的客人。  他从餐桌上端走两个盘子,来到洗手间的门口,轻轻地敲敲门,得到男孩的允许后,他推开门,先把两个盘子放到马桶盖上,然后彬彬有礼地对男孩欠了欠身,说:这么好的房间,当然不能让你一个人独享,请允许我与你共进晚餐。
洗手间是整栋房子里最好的房间。他们在洗手间里吃了很多东西,唱了很多歌。不断有客人敲门进来,他们向主人和男孩问好,递给男孩美味的苹果汁和烤得金黄的鸡翅,后来他们干脆一起挤到小小的洗手间里,给男孩唱起了歌。每个人都很认真,没有一个人认为这是一场闹剧。
多年后男孩长大了。他有了自己的公司,有了带两个卫生间的房子。他步入上流社会,成为富人。每年他都拿出很大一笔钱救助一些穷人,可是他从不举行捐赠仪式,更不让那些穷人知道他的名字。有朋友问及理由,他说:我始终记得许多年前,有一天,有一位富人和他的朋友们,他们小心翼翼地保护了一个四岁男孩的自尊。


Translated: Zab Chinese Story

Source: Gu Shi Hui
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ป้ายกำกับ

กระต่ายจ้อย (1) กำลังใจจากแม่ (1) ขโมย (1) ขโมยก็เป็นขโมย (1) ขากางเกงหายไปไหน? (1) ขี้เกียจ (1) ขี้เกียจนัก ต้องเจออย่างงี้ (1) เขามาส่งพัสดุ (1) ไข่ (1) คนตาบอดถือโคมไฟ (1) คนพิการ (1) ครอบครัว (2) ครูสอนให้พูดคำตรงข้าม (1) ความลับของการขายโจ๊ก (1) คำแนะนำจากครูสาว (1) คิดสักนิดก่อนพูด (1) คืนที่พายุฝนฟ้าคะนอง (1) คุณยายนำโชค (1) แค่กินไข่ทำไมยากจัง? (1) งานกีฬาสี (1) งานเลี้ยงหรูในห้องน้ำ (1) เจ้าของบ้าน (1) เจิงกั๋วฟาน (1) โจ๊ก (1) โจ๊กใส่ไข่ (1) ใจไม่บอด (1) ชายหนุ่มยากจน (1) ชาวนา (1) ซวย (1) ซื้อคฤหาสน์ด้วยเงินเพียง1แสน (1) เซี่ยงไฮ้ (1) ดอกกุหลาบ (1) ดอกมะลิ (1) ด่า (1) เด็กแกล้งโง่ (1) เด็กฉลาดชาติเจริญ (1) เด็กหนุ่ม (1) ตะเกียบ (1) ตาบอดแต่ใจไม่บอด (1) ตามองไม่เห็น (1) แตงโม (1) แตงโม=หมวกกันน็อค (1) ถ้วยรางวัล (1) ถุงกับข้าวกับความงามทางศิลปะ (1) เทน้ำ (1) นักบิน (1) บทความ (1) บ่อร้าง (1) ปรัชญาชีวิตจากลาเฒ่า (1) ปีใหม่ (1) ปีใหม่ห้ามพูดคำว่า“ไม่” (1) แปลนิยายจีน (1) ผู้ชนะที่แท้จริง (1) พระพุทธเจ้า (1) พลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส (1) พ่อ (1) พ่อครับ ผมจะสู้ (1) พิธีกรสาว (1) พูดไม่คิด (1) เพลงค่าน้ำนม (1) โพรงต้นไม้ (1) แฟนหนุ่ม (1) ไฟเขียว (1) ไฟจราจร (1) ไฟแดง (1) ไฟเหลือง (1) ภรรยา (2) ภรรยาที่น่าสงสาร (1) ภาคภูมิใจ (1) ม้าเล็ก (1) แม่คือครูคนแรกของลูก (1) แม่สอนลูกแบ่งแอปเปิล (1) รองเท้า (1) รักนี้ต้องกาแฟใส่เกลือ (1) ร้านขายโจ๊ก (1) เรื่องตลก (14) เรื่องตลกของนกเพนกวิน (1) เรื่องประทับใจ (7) เรื่องเล่า (10) เรื่องเล่าจากจีน (11) เรื่องเล่าให้แง่คิด (8) โรแมนติก (1) ล้มเหลว (1) ลูก (1) ลูกบอล (1) เลือกสาวคนไหนดีนะ? (1) วันคนพิการแห่งชาติจีน (1) วันครู (1) วันครูแห่งชาติจีน (1) วันเด็ก (2) วันเด็กแห่งชาติของจีน (1) วันเด็กแห่งชาติจีน (2) วันตรุษจีน (1) วันที่ซวยจริงๆ (1) วันผู้สูงอายุของจีน (1) วันพ่อ (2) วันพ่อแห่งชาติ (1) วันแม่ (3) วันแม่ของจีน (1) วันแม่แห่งชาติ (1) วันแม่แห่งชาติจีน (1) วันวาเลนไทน์ (1) วันวาเลนไทน์ของจีน (1) วันแห่งความรัก (1) วันแห่งความรักของจีน (1) ส่งรองเท้าล้านคู่มาด่วน (1) สัญญาณไฟเกิดขึ้นได้ยังไง (1) สามัคคี (1) สามีหลอกภรรยาให้เรียนหนังสือ (1) สาวตาบอด (1) เส้นทาง (1) เส้นทางความสำเร็จ (1) ใส่ไข่ไหม (1) หนังสือ (1) หนีโจรปล้นง่ายนิดเดียว (1) หนูโตขึ้นอยากเป็นอะไร (1) หมวกกันน็อค (1) อย่าดูถูก (1) อะควาเรียม (1) แอปเปิล (1) SMSคำอวยพรในเทศกาลตรุษจีน (1) Thunderstorm (1) 雷雨 (1)