วันพฤหัสบดีที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

ภรรยาที่น่าสงสาร

ภรรยาที่น่าสงสาร


            เสี่ยวหลินจบม.6 ได้ 2 ปีแล้ว และได้รู้จักกับนายจาง โดยการแนะนำของญาติ เสี่ยวหลินอายุ 20 ปี นายจางอายุ 25 ปี เดิมทีนายจางเป็นคนปักกิ่ง และต้องย้ายไปทำงานที่ฮ่องกง จึงอยากหาภรรยาที่เป็นคนปักกิ่งเหมือนกัน แล้วย้ายไปอยู่ฮ่องกงด้วยกัน (หาเมียเพื่อทำกับข้าว ซักผ้าให้กับตัวเองใช่ไหมนายจาง ?) หลังจากที่พวกเขาทั้งคู่คบกันได้ 3 เดือนแล้วนั้น นายจางก็จัดการเอกสาร และขั้นตอนต่าง ๆ ให้เสี่ยวหลินย้ายไปอยู่ฮ่องกงกับเขา โดยที่เสี่ยวหลินไม่ต้องทำอะไรเลย(ช่างเป็นสามีที่ดีซะจริง ณ ตอนนี้) เมื่อไปถึงฮ่องกง นายจางยังส่งเสี่ยวหลินให้ไปเรียนภาษากวางตุ้งและภาษาอังกฤษอีกด้วย (รับโล่สามีดีเด่นไปเลย) หลังจากนั้น 1 ปี จึงค่อยแต่งงานกัน ซึ่งในช่วงเวลานี้ทำให้เสี่ยวหลินรู้สึกได้ถึงความรัก ความห่วงใย จิตใจที่ดีงามของสามีของตน ในขณะที่เสี่ยวหลินเรียนภาษาอยู่นั้นก็เริ่มที่จะคุ้นเคยกับฮ่องกงมากขึ้น และก็ปรับตัวกับการใช้ชีวิตครอบครัวมากขึ้นด้วย ความรักในชีวิตคู่ก็ราบรื่นมีความสุขดี(อิจฉาป่ะล่ะ)

          เสี่ยวหลินอายุ 23 ปี ก็เป็นแม่คนแล้วให้กำเนิดลูกสาวคนแรก พออายุ 25 ปีก็มีลูกชายอีกคนหนึ่ง ครอบครัวที่มีเด็กอ่อนถึง 2 คนแบบนี้มันช่างยุ่งซะเหลือเกิน ทำให้เสี่ยวหลินไม่มีโอกาสออกไปทำงานนอกบ้าน เพราะฉะนั้นการเงินจึงต้องพึ่งสามีทั้งหมด จุดเริ่มต้นของการแตกร้าวก็มาถึง เมื่อลูกชายคนเล็กอายุได้ 2 ขวบเต็ม สามีก็เริ่มขยายกิจการจากฮ่องกงไปยังปักกิ่ง ทุกสัปดาห์สามีจะกลับพักที่ฮ่องกงเพียง 2-3 วัน ส่วนเวลาที่เหลืออยุ่ปักกิ่งทั้งหมด วันเวลาผ่านไปครึ่งปี สามีก็มีความคิดที่จะให้เสี่ยวหลินกลับปักกิ่งไปทำกิจการด้วยกัน ซึ่งในตอนนั้นเสี่ยวหลินเห็นว่าลูกยังเล็ก และเสี่ยวหลินเองก็คุ้นเคยกับการใช้ชีวิตอยู่ที่ฮ่องกงนี้แล้ว ไม่อยากจะกลับไปบ้านเก่าที่ปักกิ่งแล้ว  เรื่องราวก็เป็นแบบนี้เรื่อยมา

            จนกระทั่ง สามีทำกิจการที่ปักกิ่งเจริญรุ่งเรืองเป็นอย่างมาก เวลาที่จะกลับมาฮ่องกงก็น้อยลงตามไปด้วย ในแต่ละเดือนกลับมาเพียงแค่ครั้งเดียว ทุกครั้งที่กลับมาก็อยู่อย่างมากแค่ 3 วัน เมื่อกลับมาฮ่องกงสามีก็จะติดต่อธุรกิจของตนเอง ซื้อของ เล่นกับลูก ๆ  ซึ่งเวลาส่วนตัวของพวกเขาทั้งคู่ให้อย่างมากก็แค่วันเดียว พอลูกชายคนเล็กอายุได้ 5 ขวบ เสี่ยวหลินเพิ่งได้ไปบริษัทสามีที่ปักกิ่งเป็นครั้งแรก เป็นบริษัทขนาดเล็ก แต่เสี่ยวหลินไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับบริษัท ความสัมพันธ์ในระหว่างสามีกับเธอ ไม่เหมือนสามีภรรยากันเลย กลับเหมือนเพื่อนกันซะมากกว่า เสี่ยวหลินทนไม่ได้กับการเมินเฉยของสามี ซึ่งในตอนนี้นี่เองที่เสี่ยวหลินตัดสินใจแล้วว่า จะอยู่ที่ปักกิ่งใช้ชีวิตคู่กับสามี แต่ทว่าสามีกลับปฏิเสธโดยสิ้นเชิง ซึ่งในตอนนั้นลูกชายคนเล็กอายุได้ 6 ขวบแล้ว แต่สามีกลับเอ่ยถึงการขอหย่า ด้วยเหตุผลว่าเราแยกกันอยู่มาเป็นเวลานาน ความรัก ความผูกพันระหว่างสามีภรรยามันค่อยๆ หมดไปแล้ว การหย่ากันจึงเป็นหนทางของการปลดแอกที่ดีที่สุดของทั้งสองฝ่าย เสี่ยวหลินได้ลองใช้ช่วงเวลาหนึ่งในการพยายามที่จะฟื้นฟูสถานะของความเป็นสามีภรรยากลับคืนมา แต่สุดท้ายเธอก็หมดแรงที่จะกอบกู้สถานะการณ์นี้ไว้ได้

เฮ้อ! เสี่ยวหลินภรรยาที่น่าสงสาร อยากจะถอนหายใจสักสิบรอบ
ดูเหมือนจะเป็นครอบครัวที่ดี ฐานะการงานการเงินก็เพอร์เฟ็ค
แต่ก็อ่ะนะ จิตใจคนยากที่จะหยั่งรู้ กาลเวลาเปลี่ยน ใจคนก็เปลี่ยน
เสี่ยวหลินผิดใช่ไหมที่ไม่ยอมย้ายไปอยู่ปักกิ่งตั้งแต่ครั้งแรกที่สามีชวน?!
และถ้าคุณเป็นเสี่ยวหลินคุณจะทำอย่างไรเพื่อเหนี่ยวรั้งความเป็นครอบครัวให้กลับคืนมา?


好可怜的妻子

        小林是高中毕业两年后认识张先生的, 那年她20, 她先生25,那时张先生以移居香港多年, 一定要找一个北京姑娘。他们由亲戚的介绍才走到一起的。他们认识了三个月以后, 张先生为她办好了去香港的手续。到了香港, 张先生先送小林去学习广东话和英语, 一年后才成了家, 这个过程也让小林感到了张先生的善解人意。在学习过程中, 小林增进了对香港的了解, 走进婚姻后, 很适应那里的生活, 感情上也很融洽。

     23, 小林做了母亲, 25, 又有了第二个孩子。一儿一女的家庭完全拴住了小林的手脚, 没有机会出去工作, 经济上只能依靠丈夫。小儿子刚满两岁, 丈夫开始到北京发展自己的事业, 每周回香港呆两三天, 其余时间都在北京。过了半年, 丈夫有意让小林跟他到北京创业, 小林因为孩子小, 而且已经习惯了香港的生活, 不想再回内地, 事情就这样耽搁了下来。

     随着丈夫事业在北京的发展, 他回香港的时间少了, 每个月才能回来一次, 每次最多呆三天, 除了处理他的公务、购物、亲近孩子, 属于他们俩的时间最多一天。儿子五岁时, 小林第一次到了丈夫在北京的公司, 已经小有规模。但小林对公司的事一无所知, 丈夫跟她, 不像夫妻, 倒像是朋友。小林受不了丈夫的冷漠, 当时就下决心, 留在北京和丈夫一起生活, 然而却遭到丈夫的坚决反对。儿子六岁的时候, 丈夫提出离婚,理由是长期分居影响夫妻之间的感情, 离婚对双方是一种人道的解脱。小林经过一段时间的努力, 最后还是无力挽回。

Source: Gao Xiao Gu Shi
 
Translated: Zab Chinese Story

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ป้ายกำกับ

กระต่ายจ้อย (1) กำลังใจจากแม่ (1) ขโมย (1) ขโมยก็เป็นขโมย (1) ขากางเกงหายไปไหน? (1) ขี้เกียจ (1) ขี้เกียจนัก ต้องเจออย่างงี้ (1) เขามาส่งพัสดุ (1) ไข่ (1) คนตาบอดถือโคมไฟ (1) คนพิการ (1) ครอบครัว (2) ครูสอนให้พูดคำตรงข้าม (1) ความลับของการขายโจ๊ก (1) คำแนะนำจากครูสาว (1) คิดสักนิดก่อนพูด (1) คืนที่พายุฝนฟ้าคะนอง (1) คุณยายนำโชค (1) แค่กินไข่ทำไมยากจัง? (1) งานกีฬาสี (1) งานเลี้ยงหรูในห้องน้ำ (1) เจ้าของบ้าน (1) เจิงกั๋วฟาน (1) โจ๊ก (1) โจ๊กใส่ไข่ (1) ใจไม่บอด (1) ชายหนุ่มยากจน (1) ชาวนา (1) ซวย (1) ซื้อคฤหาสน์ด้วยเงินเพียง1แสน (1) เซี่ยงไฮ้ (1) ดอกกุหลาบ (1) ดอกมะลิ (1) ด่า (1) เด็กแกล้งโง่ (1) เด็กฉลาดชาติเจริญ (1) เด็กหนุ่ม (1) ตะเกียบ (1) ตาบอดแต่ใจไม่บอด (1) ตามองไม่เห็น (1) แตงโม (1) แตงโม=หมวกกันน็อค (1) ถ้วยรางวัล (1) ถุงกับข้าวกับความงามทางศิลปะ (1) เทน้ำ (1) นักบิน (1) บทความ (1) บ่อร้าง (1) ปรัชญาชีวิตจากลาเฒ่า (1) ปีใหม่ (1) ปีใหม่ห้ามพูดคำว่า“ไม่” (1) แปลนิยายจีน (1) ผู้ชนะที่แท้จริง (1) พระพุทธเจ้า (1) พลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส (1) พ่อ (1) พ่อครับ ผมจะสู้ (1) พิธีกรสาว (1) พูดไม่คิด (1) เพลงค่าน้ำนม (1) โพรงต้นไม้ (1) แฟนหนุ่ม (1) ไฟเขียว (1) ไฟจราจร (1) ไฟแดง (1) ไฟเหลือง (1) ภรรยา (2) ภรรยาที่น่าสงสาร (1) ภาคภูมิใจ (1) ม้าเล็ก (1) แม่คือครูคนแรกของลูก (1) แม่สอนลูกแบ่งแอปเปิล (1) รองเท้า (1) รักนี้ต้องกาแฟใส่เกลือ (1) ร้านขายโจ๊ก (1) เรื่องตลก (14) เรื่องตลกของนกเพนกวิน (1) เรื่องประทับใจ (7) เรื่องเล่า (10) เรื่องเล่าจากจีน (11) เรื่องเล่าให้แง่คิด (8) โรแมนติก (1) ล้มเหลว (1) ลูก (1) ลูกบอล (1) เลือกสาวคนไหนดีนะ? (1) วันคนพิการแห่งชาติจีน (1) วันครู (1) วันครูแห่งชาติจีน (1) วันเด็ก (2) วันเด็กแห่งชาติของจีน (1) วันเด็กแห่งชาติจีน (2) วันตรุษจีน (1) วันที่ซวยจริงๆ (1) วันผู้สูงอายุของจีน (1) วันพ่อ (2) วันพ่อแห่งชาติ (1) วันแม่ (3) วันแม่ของจีน (1) วันแม่แห่งชาติ (1) วันแม่แห่งชาติจีน (1) วันวาเลนไทน์ (1) วันวาเลนไทน์ของจีน (1) วันแห่งความรัก (1) วันแห่งความรักของจีน (1) ส่งรองเท้าล้านคู่มาด่วน (1) สัญญาณไฟเกิดขึ้นได้ยังไง (1) สามัคคี (1) สามีหลอกภรรยาให้เรียนหนังสือ (1) สาวตาบอด (1) เส้นทาง (1) เส้นทางความสำเร็จ (1) ใส่ไข่ไหม (1) หนังสือ (1) หนีโจรปล้นง่ายนิดเดียว (1) หนูโตขึ้นอยากเป็นอะไร (1) หมวกกันน็อค (1) อย่าดูถูก (1) อะควาเรียม (1) แอปเปิล (1) SMSคำอวยพรในเทศกาลตรุษจีน (1) Thunderstorm (1) 雷雨 (1)